นิสสัน เปิดให้สื่อมวลชน ทดสอบขับขี่ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ตามการใช้งานจริงเต็มรูปแบบด้วยระยะทางกว่า 450 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯสู่จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีสภาพเส้นทางครบทุกรูปแบบ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ในการขับขี่ครบทุกรูปแบบของคอมแพ็ค เอสยูวี ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% แต่ไม่ต้องชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกด้วยเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ โดยครั้งก่อนเป็นการทดสอบในสนามทดสอบ แต่ในครั้งนี้จะได้ทดสอบบนการใช้งานจริง ถนนจริงๆ
โดยการทดสอบครั้งนี้มีเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ “พลังแห่งความเร้าใจ” (Power to Thrill) เพื่อให้ได้ทดสอบทุกสรรถนะของเทคโนโลยีระดับรางวัลอย่าง อี-พาวเวอร์ กับโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย และระบบ วัน-แพดเดิล ที่มาพร้อมแรงบิด 260 นิวตัน-เมตร ที่ขับเคลื่อน นิสสัน คิกส์ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โหมดการขับขี่สามารถเลือกปรับอัตราเร่งขึ้นมาในทันทีและต่อเนื่อง ทำให้เหมาะสมกับการใช้งาน จนผู้ขับสามารถสัมผัสได้ถึงความเร้าใจและนุ่มนวลไปพร้อม ๆ กับประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
ทาง นิสสัน ได้กำหนดเส้นทางในการทดสอบให้สื่อมวลชนได้ขับข้ามภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งภูมิทัศน์และการจราจรตั้งแต่ในกรุงเทพฯ ผ่านทางหลวงสายหลักที่มี 4 ช่องจราจร หรือทางหลวงชนบทข้ามภูเขาเพียง 2 ช่องจราจรที่ต้องเดินรถสวนทางกันตลอด ไปจนถึงภูมิประเทศแบบธรรมชาติที่มีทัศนียภาพเป็นภูเขาของจังหวัดราชบุรีและจังหวัดกาญจนบุรี เส้นทางนี้เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการปลีกเวลาจากความวุ่นวายในเมือง และยังเป็นเส้นทางที่สามารถแสดงสรรถนะของรถยนต์ทุกคันได้เป็นอย่างดี
ทางเรานั้นได้ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ และเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 95 กิโลวัตต์ (129 PS) และแรงบิดแสูงสุดแบบต่อเนื่องถึง 260 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 10 วินาทีเท่านั้นเอง จึงทำให้การเร่งแซงทำได้อย่างมั่นใจ และง่ายดายในทุกสถานการณ์
“ทดสอบนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์”
ซึ่งนอกจากพละกำลังแล้วยังมีสมรรถนะของการควบคุม หรือ Handling ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า และออกโค้งขนาดเล็กรวมถึงพื้นที่แคบได้อย่างคล่องตัว พร้อมระบบช่วงล่างที่ถูกปรับตั้งเพื่อให้ทั้งความสบายและนุ่มนวล รวมถึงให้ห้องโดยสารที่มีความเงียบ แม้เดินทางอยู่ในย่านความเร็วสูงระหว่างการทดสอบขับขี่
และนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ นี้ มาพร้อมด้วยโหมดการขับขี่ถึง 4 โหมด สามารถเลือกได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะต้องการความสะดวกสบาย หรือความสนุกสนาน ได้แก่ Normal โหมด, Smart โหมด, Eco โหมด, และ EV โหมดที่เป็นการใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่มาใช้ขับเคลื่อน จึงให้ความเงียบ และความนุ่มนวลเฉกเช่นเดียวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
เมื่อเดินทางไปถึงเส้นทางที่เป็นทิวเขา และถนนที่มีความขดเคี้ยวไปมา ก็ถึงเวลาของ “วัน-แพดเดิล” เอกสิทธิ์เฉพาะของ นิสสัน ที่ช่วยให้เราสามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้ด้วยเพียงการควบคุมที่แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะอยู่ในสถาณการณ์ที่การจราจรติดขัดในเมือง หรือการเข้าโค้งรูปแบบต่างๆ
ในระหว่างทดสอบ เรายังได้สัมผัสกับคุณสมบัติความปลอดภัยและเทคโนโลยีล้ำสมัยจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี อาทิ
- เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control)
- เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning system)
- เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning)
- เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking)
ด้วยนวัตกรรมรอบด้านเหล่านี้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์ที่ไร้กังวลให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี
จากเส้นทางทดสอบระยะทางไกลกว่า 450 กิโลเมตร ผู้ทดสอบจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายของดีไซน์ภายในห้องโดยสารของของ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ที่จัดวางหน้าจอแสดงผลที่หน้าปัทม์ขนาดใหญ่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ (Infotainment) ขนาด 8 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟนของคุณได้อย่างไร้รอยต่อ(Apple Car Play) พวงมาลัยทรง D-shape มาพร้อมกับเบาะนั่งที่ที่รับกันพอดี ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด สำหรับการเดินทางไกล หรือจะเป็นเพียงการเดินทางสั้นๆในเมืองก็ตาม
“คอมแพ็ค เอสยูวี รุ่นล่าสุดของครอบครัวของ นิสสัน ใน ประเทศไทย ได้แสดงถึง แนวคิดของการขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน หรือ Nissan Intelligent Mobility นิสสัน คิกส์ นำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดของพลังขับเคลื่อนอัจฉริยะ หรือ Intelligent Power เสริมความมั่นใจของการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงจาก Intelligent Driving เพลินเพลิดกับการสื่อสารไร้รอยต่อผ่าน Intelligent Integration”
สำหรับการดูแลรักษา นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ที่ได้นำจุดเด่นของทั้ง 2 ระบบการขับเคลื่อน ทั้งการลดการดูแลรักษาในส่วนของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (electric powertrain) และค่าบำรุงรักษาต่ำสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็ก ซึ่งในระหว่างที่ร่วมเดินทางใน กิจกรรม “Powered to Thrill” ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันให้วุ่นวาย เพราะเพียงมีเชื้อเพลิงเต็มถังคุณก็สามารถเดินทางไปกลับได้จนจบทริป