Home DRIVE (เทสรถ) ทดสอบสมรรถนะ เมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 20 รุ่น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

ทดสอบสมรรถนะ เมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 20 รุ่น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

by Gotz
1267 views

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดกิจกรรมอบรมเทคนิคการการขับขี่ปลอดภัยขั้นสูง “Mercedes-Benz Driving Events 2019” ขนทัพรถหรูกว่า 20 รุ่น   โชว์ และ ทดสอบสมรรถนะ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ด้านความปลอดภัย จัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย โดยมีทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพร่วมให้คำแนะนำในการฝึกทักษะการขับขี่ปลอดภัยขั้นสูงอย่างใกล้ชิด พร้อมขนทัพยนตรกรรมหรูกว่า 20 รุ่น พร้อมด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด The new Mercedes-Benz A-Class และ The new Mercedes-Benz GLE  รวมทั้ง “Mercedes-Benz GLC” และ “Mercedes-Benz GLC Coupé” รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ มาให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วม ทดสอบสมรรถนะ 

 

นอกจากผู้ร่วมอบรมจะได้เรียนรู้วิธีการขับขี่ปลอดภัยแล้ว ทุกท่านจะได้สัมผัสสมรรถนะอันดีเยี่ยม ความโฉบเฉี่ยวเร้าใจสไตล์สปอร์ต ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดสเบนซ์ รวมถึงความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ได้เป็นอย่างดีของรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ทุกรุ่น โดยการทดสอบนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 6 สถานีทดสอบ เริ่มต้นด้วยสถานีแรกคือ

สถานีที่ 1:

Brake & Lane Change

เป็นการทดสอบการควบคุมเบรกฉุกเฉิน และทดสอบความเร็วในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของผู้ขับขี่ โดยผู้ทดสอบจะได้ทดสอบระบบความปลอดภัย ABS®  ระบบช่วยเบรก และไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก โดยผู้ทดสอบต้องขับรถออกจากจุดเริ่มต้นด้วยความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. เหยียบเบรก และหักเลี้ยวไปในทิศทางตามการให้สัญญาณของผู้ฝึกสอน ซึ่งการทดสอบนี้ได้รับการออกแบบให้ผู้ขับขี่ฝึกการใช้เบรกฉุกเฉิน และการควบคุมรถภายใต้ความกดดัน

 

สถานีที่ 2: ESP® Simulation

สถานการณ์ที่ยากที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ คือการที่ต้องเผชิญกับสิ่งกีดขวางบนท้องถนนโดยที่ไม่ทันตั้งตัว และไม่มีเวลาเบรก ทักษะการหลบหลีก และน้ำหนักในการเหยียบคันเร่งจึงเป็นสิ่งที่ผู้ขับที่ทุกคนจำเป็นต้องมี เพื่อที่จะสามารถผ่านการทดสอบในสถานีนี้ได้ ดังนั้นการใช้ระบบความปลอดภัย ESP® จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการควบคุมรถให้ไปในทิศทางที่ต้องการในสถานการณ์อันคับขัน

 

สถานีที่ 3: Drag Race & Brake to a Point

เป็นสถานีที่เปิดโอกาสให้ผู้ทดสอบได้สัมผัสถึงสมรรถนะของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีได้อย่างเต็มที่ ด้วยการจำลองการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต พร้อมฝึกทักษะการตอบสนองของผู้ทดสอบ โดยรถทั้งสองคันจะถูกปล่อยตัวพร้อมกันเมื่อสัญญาณไฟแดงดับลง และผู้ทดสอบจะต้องเบรกเมื่อถึงจุดที่กำหนดไว้ ผู้ที่สามารถหยุดรถให้อยู่ในจุดที่กำหนดได้จะถือว่าชนะการแข่งขัน

 

สถานีที่ 4: Cornering Exercise

เป็นการทดสอบการเข้าโค้ง โดยจะใช้พื้นที่โค้งในสนามที่มีความกว้างแตกต่างกันไป ทำให้ผู้ทดสอบสามารถฝึกทักษะที่จำเป็นในการขับขี่ ได้แก่ การเบรก การบังคับทิศทางรถ และการมองเห็นได้อย่างเต็มที่ ผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้นำการขับขี่ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของสนาม ทำให้ผู้ทดสอบได้ฝึกการขับขี่ในเส้นทางการแข่งรถจริงๆ พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้เทคนิคการขับขี่ของนักแข่งรถอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์หลากหลายรุ่น และความแตกต่างระหว่างรถยนต์แต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นทั้งรถยนต์โดยสารหรือรถเอสยูวี

 

สถานีที่ 5: Handling Course

คือการจำลองการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้ทดสอบทุกคนด้วยการจับเวลาการแข่งขัน โดยผู้ทดสอบจะได้ใช้ทักษะในการควบคุมรถ การเบรก และการเร่งความเร็วของรถยนต์ โดยในสถานีนี้ผู้ทดสอบจะได้ทดลองขับรถยนต์ Mercedes-Benz A-Class รุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ทดสอบสามารถเปรียบเทียบทักษะของตนเอง พร้อมทั้งเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของผู้อื่นอีกด้วย

 

สถานีที่ 6: Lead & Follow

ในสถานีนี้ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีจะถูกแบ่งเป็น กลุ่ม ซึ่งรถในแต่ละกลุ่มจะมีลักษณะ และสมรรถนะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้ผู้ทดสอบได้ฝึกทักษะการขับขี่แบบนักแข่งรถตามเส้นทางการแข่งรถของจริงบนสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมทั้งสัมผัสสมรรถนะของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเต็มรูปแบบ โดยผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้นำเส้นทางไปรอบๆ สนาม พร้อมทั้งให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดสำหรับการขับขี่บนเส้นทางรถแข่ง เพื่อเสริมสร้างทักษะการขับขี่ปลอดภัยให้กับผู้ทดสอบทุกท่าน

Please follow and like us:

Related Articles

Verified by MonsterInsights