BMW : บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ต่อยอดความสำเร็จในปี 2563 ด้วยการเปิดตัวทัพยนตรกรรมใหม่ครบทั้งสามแบรนด์ หลังสร้างความสำเร็จครั้งสำคัญจากการคว้าตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดยานยนต์พรีเมียม ทั้งยังเดินหน้ามอบพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง สานต่อจากการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ในเดือนมกราคม ด้วยรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ใหม่หลากหลายรุ่น ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์อเนกประสงค์ SAV สุดหรูไปจนถึงมอเตอร์ไซค์ครูสเซอร์สุดคลาสสิก
ทัพยนตรกรรมใหม่ในปีนี้ นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive30d M Sport ใหม่ ที่สุดแห่งยนตรกรรมหรูในตระกูล SAV ที่นำเข้ามาประกอบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Sedan จะนำความสะดวกสบายในห้องโดยสารที่เหนือกว่ามามอบให้กับลูกค้าในไทย ส่วนมินิพร้อมเติมสีสันให้กับตลาดรถยนต์พรีเมียมคอมแพกต์อีกครั้ง กับ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ที่มาในโฉมใหม่ทั้งในรุ่นเอนทรี และไฮทริม พร้อมด้วยความโฉบเฉี่ยวขั้นสุดกับ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP Inspired Edition ที่นำสมรรถนะจากสนามแข่งของรุ่น จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เดิม มาเติมเต็มให้แรง ท้าทายทุกสายตาด้วยโฉมใหม่ที่ส่งตรงมาจากรุ่นพิเศษอย่าง มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP
สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดพร้อมต่อยอดความสำเร็จของมอเตอร์ไซค์ครูสเซอร์รุ่นแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition รถทัวริ่งครูสเซอร์ที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพบนทุกเส้นทางยาวไกล แต่ยังคงความคลาสสิกของ R 18 รุ่นเดิมไว้ทุกอณู
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่อนาคตมาโดยตลอดในทุกระดับ และสำหรับปี 2563 ที่ผ่านมา วิสัยทัศน์นี้ก็ได้นำพาเราให้ฟันฝ่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมายมาได้ ไม่ว่าจะด้วยการมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ครบครันมากขึ้น หรือความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกความต้องการในโลกยานยนต์สำหรับทั้งปัจจุบันและอนาคต ด้วยทางเลือกที่หลากหลายจากแนวคิด Power of Choice”
“แน่นอนว่าสำหรับปี 2564 นี้ เรายังคงรุดหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดความสำเร็จในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เร้าใจและสะดุดตายิ่งกว่าเดิม ทั้งยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึงทุกความต้องการ นับตั้งแต่ที่สุดของความหรูหราและความสง่างามในสไตล์สปอร์ต ไปจนถึงความตื่นตาตื่นใจจากสนามแข่งและความเพลิดเพลินจากการดื่มด่ำบรรยากาศของทุกการเดินทาง
นอกจากนี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าต่อไป เพื่อสานต่อนวัตกรรมมากมายที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ให้ครอบคลุมหลากหลายความสนใจของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นจากโครงการ BMW Motorrad Tour Experience เพื่อนำเหล่าไบค์เกอร์ออกสัมผัสความสวยงามจากเหนือจรดใต้ของประเทศไทยในมุมมองใหม่ ๆ ตลอดทั้งปีนี้”
อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ กับความสำเร็จครั้งสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
ในปี 2563
ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สามารถขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมขึ้นมาที่ 51.2% ด้วยยอดการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวมถึง 12,426 คัน ทำให้บริษัทก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในเซกเมนต์ดังกล่าวได้สำเร็จ นอกจากนี้ ส่วนแบ่งตลาดพรีเมียมที่เติบโตขึ้นถึง 7.3% ยังนับเป็นสถิติอัตราการเติบโตสูงสุดในเครือข่ายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้ ยอดการส่งมอบรถยนต์ของทั้งสองแบรนด์นับว่าเป็นผลงานที่แข็งแกร่งกว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งมียอดขายลดลงถึง 31%
ส่วนทางบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาระดับยอดการส่งมอบไว้ได้ที่ 1,224 คัน ท่ามกลางความท้าทายครั้งประวัติศาสตร์นี้ “สถานะผู้นำในเซกเมนต์พรีเมียมของเรา ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความรวดเร็วของเราในการปรับตัวรับมือเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และความมุ่งมั่นทุ่มเทของเหล่าพันธมิตรในเครือข่ายผู้จำหน่ายของเรา เพื่อตอบสนองต่อทั้งความต้องการของลูกค้าและปัจจัยความเปลี่ยนแปลงจากภายนอก”
“เมื่อชีวิตประจำวันในหลายด้านต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะ เราจึงขยายการทำตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลให้กว้างขวางขึ้นจากปีก่อน ๆ โดยรวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลในสองงานใหญ่ประจำปี ทั้งบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 และมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 ควบคู่ไปกับการจัดแสดงรถยนต์หน้างานจริงและข้อเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายเช่นเคย ส่วนงาน BMW Xpo ของเราก็ได้ปรับรูปแบบให้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นด้วยการจัดงานในหลายสถานที่ทั่วกรุงเทพฯ”
การขับเคลื่อนนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลก ยังคงเดินหน้าต่อไป เช่นเดียวกับในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่าง มินิ คูเปอร์ เอสอี ในปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยรถยนต์ PHEV อีกสี่รุ่นในตระกูลซีรีส์ 3 ซีรีส์ 7 X3 และ X5 ขณะที่เครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow ก็มีจำนวนหัวจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 111 หัวจ่ายใน 67 จุดบริการทั่วประเทศ
ในด้านการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถต้านทานแรงกดดันจากสภาพตลาดรถยนต์โดยรวม รวมถึงสถานการณ์ที่พลิกผันในห่วงโซ่อุปทานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ด้วยยอดการประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรวมกว่า 32,052 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นยอดการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 23,177 คัน ลดลง 10% และยอดประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดที่ 8,875 คัน เพิ่มขึ้น 43%
ในปี 2563 ที่ผ่านมา ในด้านการส่งออกนั้น มีการส่งออกรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู รวม 23,143 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24% โดยแบ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูกว่า 15,079 คัน เพิ่มขึ้น 3% และมีการส่งออกมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด กว่า 8,064 คัน เพิ่มขึ้นถึง 97% นับเป็นสถิติการส่งออกที่สูงที่สุดสำหรับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในปีที่ผ่านมา และในปีนี้ การเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive30d M Sport ใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ ก็ทำให้โรงงานประกอบยานยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู ณ จังหวัดระยอง สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในประเทศได้ถึง 17 รุ่น โดยรวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 5 รุ่น และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อีก 9 รุ่น
ทางด้าน บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยสถิติใหม่ในหลายด้านตลอดปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะฉลองครบรอบ 20 ปีของบริษัทในปี 2564 นี้ โดยยอดสินเชื่อใหม่กว่า 16,770 ล้านบาทในปี 2563 นับเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ ยอดสินเชื่อรวมในพอร์ตของบริษัทจึงทะยานสู่หลัก 50,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติใหม่อีกเช่นกัน
ส่วนโปรแกรมทางการเงินอย่าง Freedom Choice ที่มอบทางเลือกและอิสรภาพสูงสุดให้กับลูกค้า มีจำนวนสัญญาเช่าซื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ประสบการณ์และข้อเสนอในช่องทางดิจิทัลของ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ได้ขยายตัวและเพิ่มความหลากหลายขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบของบริการค้นหารถยนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่สุด (Preference Finder) การสัมผัสรถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 และ ซีรีส์ 3 แบบเสมือนจริงผ่านระบบ Augmented Reality และการร่วมนำเสนอบริการผ่านช่องทางออนไลน์ในงานมอเตอร์โชว์และมอเตอร์ เอ็กซ์โป กับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดรุ่นใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู BMW X7 xDrive30d M Sport ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งพละกำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 2,500 รอบต่อนาที พร้อมโลดแล่นสู่ความเร็วสูงสุดที่ 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์นี้ทำงานสอดประสานกับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ ช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับอัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive จึงมอบความนุ่มสบายเหนือระดับ การควบคุมที่เฉียบคม และความปราดเปรียวอันทรงพลัง ขณะที่ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro มาพร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบา BMW Individual ลาย Y-spoke แบบสลับสีขนาด 22 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะนั่งแบบสามแถว รวม 7 ที่นั่ง ทุกที่นั่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า มอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบความบันเทิงพร้อมจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังรุ่น Professional อีกสองจอ ส่วนห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีปริมาตรความจุ 300 ลิตร และเพิ่มได้สูงสุดถึง 2,120 ลิตร เมื่อพับเบาะแถว 3 และแถว 2 ตามลำดับ
BMW X7 xDrive30d M Sport ใหม่ (รุ่นประกอบในประเทศ)
ราคาจำหน่าย: 5,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ส่งกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้าที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550 – 4,400 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.2 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ และรองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด COMFORT, SPORT และ ECO PRO นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมกับล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี สอดรับกับขอบหน้าต่าง ช่องดักอากาศ และซี่บริเวณกระจังหน้าไตคู่สีดำเงา ภายในโฉบเฉี่ยวด้วยพวงมาลัย M Sport คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec และตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon
BMW 330Li M Sport
ราคาจำหน่าย: 2,899,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที ขับขี่สนุกตามสไตล์มินิด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ Steptronic 7 จังหวะ และแบบ Paddle Shift ในรุ่นไฮทริม โดยเครื่องยนต์มาพร้อมกับท่อร่วมไอเสียที่ผสานกับฝาสูบและเทอร์โบชาร์จเจอร์ จึงช่วยให้สามารถลดอุณหภูมิของไอเสียและระบบอัดอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบฉีดตรงในเครื่องยนต์เบนซินตัวนี้ยังสามารถทำงานด้วยแรงดันสูงสุดที่เพิ่มขึ้นจาก 200 เป็น 350 บาร์
และยังมาพร้อมกับล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลาย Pair Spoke ในขณะที่มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม มากับล้อขนาด 18 นิ้ว ลาย Black Pin Spoke
ระบบแสดงผล MINI Head-Up Display ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากห้องนักบินของเครื่องบินเจ็ท จะแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ เช่น ความเร็วของรถ ให้ผู้ขับขี่เห็นได้โดยไม่บดบังทัศนียภาพบนท้องถนน ส่วนหน้าจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว บริเวณกลางแผงคอนโซล มาพร้อมกับระบบ MINI Connected
มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน เอนทรี ใหม่
ราคาจำหน่าย: 1,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ใหม่
ราคาจำหน่าย: 2,529,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP Inspired Edition รับพละกำลังขับเคลื่อนจากขุมพลังเบนซิน 4 สูบเช่นเดียวกับมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู ควบคู่กับโครงสร้างน้ำหนักเบาและเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ ส่งกำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร โลดแล่นจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.1 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 246 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP Inspired Edition ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,448,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP Inspired Edition ทั้ง 19 คันจะเปิดให้จองผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นทางwww.mini.co.th ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
แค่ 60 วินาที ก็เป็นเจ้าของมินิได้ พร้อมของขวัญสุดพิเศษในมหกรรมออนไลน์ MINI Always-on
แฟน ๆ มินิทั่วไทยสามารถเป็นเจ้าของมินิคันใหม่ได้เร็วกว่า ง่ายกว่า และสะดวกกว่าครั้งไหน ๆ ในมหกรรมออนไลน์ MINI Always-on ที่จะเปิดฉากขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ที่ www.mini.co.th เท่านั้น
ในโอกาสนี้ ลูกค้าที่จองรถมินิทุกรุ่นที่ร่วมรายการ 100 คันแรกผ่านทางเว็บไซต์ www.mini.co.th นอกจากจะได้ออกรถไปโลดแล่นให้จุใจแล้ว ยังจะได้รับชุดของขวัญพิเศษจาก MINI Lifestyle Collection มูลค่าถึง 9,287 บาทอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูลครูสเซอร์ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มาพร้อมกับอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างกระจกบังลมขนาดใหญ่ เบาะผู้โดยสาร กระเป๋าข้าง ไฟหน้า LED เสริม และล้อหน้าขนาด 16 นิ้ว เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบขนาดใหญ่ยังคงเป็นหัวใจหลักของสุนทรียภาพในการขับขี่ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมทั้งบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition ใหม่ด้วยเช่นกัน โดยเครื่องยนต์ 1,802 ซีซีนี้มอบพละกำลังที่เหนือกว่าด้วยกำลังขับสูงสุด 67 กิโลวัตต์ / 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที และส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรตลอดในระหว่าง 2,000 ถึง 4,000 รอบต่อนาที
บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition ใหม่
ราคาจำหน่าย: 1,250,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW Motorrad Tour Experience เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวทั่วไทยกับโปรแกรม Discoveride
นอกจากการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยังเตรียมนำเหล่าไบค์เกอร์ออกท่องโลกกว้าง สัมผัสความสวยงามจากเหนือจรดใต้ของประเทศไทยในมุมมองใหม่ ๆ ด้วยโปรแกรม BMW Motorrad Tour Experience โดยตลอดทั้งปี 2564 นี้ เจ้าของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดจะสามารถร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวสุดตระการตาทั่วไทยไปกับสองล้อคู่ใจและเพื่อนร่วมทริปสายผจญภัย พร้อมประสบการณ์ครั้งพิเศษในการเยี่ยมชมสายการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ณ โรงงานที่ จ.ระยอง
ระหว่างการผจญภัยในทริป Discoveride ผู้เข้าร่วมจะได้พัฒนาทักษะการขับขี่ทั้งออนโร้ดและออฟโร้ด โดยมีมาร์แชลระดับมืออาชีพที่ได้รับการรับรองจากบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมผู้นำเที่ยวคอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทาง ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดสามารถเลือกจากทั้งหมด 10 เส้นทาง ซึ่งครอบคลุมระดับการขับขี่ เส้นทาง สภาพพื้นผิวและระยะเวลาที่หลากหลาย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BMW Motorrad Tour Experience คลิก! หรือแอดไลน์ @bmwmotorradowners
ติดตามกิจกรรมและเรื่องราวที่น่าสนใจจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ได้ทาง https://www.facebook.com/BMWMotorradTH